แจ้งข่าวสารจาก FOREXGROUPTHAILAND

แนะนำเวบไซด์ อัพเดทล่าสุด http://1step-success.blogspot.com


เปิดตัวเวบบอร์ดใหม่ ข้อมูลอัพเดทจะอยู่ที่ http://fx4uthai.com
ดูผลการเทรดของ GreenPip Turbo แบบ Real Time ได้ที่นี่


เตรียมพบกับ EA ตัวใหม่ รูปแบบการทำงาน martiangle and hedging เร็วๆ นี้ ดูผลเทรดที่นี่ เปิดขายราคาพิเศษช่วงแนะนำ ติดต่อที่ admin@you-can-trade.com


พบกับ Greenpips Turbo EA ที่ทำงานแบบ Martingale และใหม่ล่าสุด GodBless Twin EA ทำงานแบบ Martingale และ Hedging พระเอกในการทำกำไรกับ FOREX !!!!
โบรกเกอร์ที่อนุญาต ให้เทรดแบบ Hedging ดูรายละเอียดที่นี่

วิธีการเปิดบัญชี vps และ โบรกเกอร์ กดที่นี่

ดูผลงานการเทรดจาก Greenpips Turbo และ EA Martingale+ Hedging ด้วยเงินจริงๆ ด้านล่างได้เลยครับ

ตารางเวลาเทรด FOREX









ผลงานการเทรดด้วยระบบของเรา



ต้องการใช้บริการระบบของเราเข้าไปดูข้อมูลอัพเดทล่าสุดได้ที่
http://ea-thai.blogspot.com

ฟังเพลงออนไลน์

ผลงานของ GreenPips Turbo แบบเรียลไทม์

ปริมาณการซื้อ-ขาย FOREX

ทำไมต้องใช้บริการ EA กับเรา?

สวัสดีเพื่อนๆ นักเทรด FOREX ทุกคน ที่เข้ามาเยี่ยมชมในเวบไซด์แห่งนี้ เรามีความหวัง เรามีเป้าหมายเพื่อการทำกำไรในธุรกิจ FOREX หลายคนคงเคย "สูญเสียกับ FOREX" แต่ในวันนี้หากคุณมีวิธีเพิ่มเงินทุนของคุณมากกว่า 100% ของเงินทุนภายในระยะเวลาไม่เกิน 2 เดือน คุณกล้าที่จะลงทุนไหม ? เพราะว่าในโลกนี้ไม่มีสิ่งใดที่จะได้มาฟรีๆ แน่นอน เรามีผลงานเป็นเครื่องยืนยันความสำเร็จ นักเทรด FOREX หลายคนพยายามค้นหา EA แบบที่ฟรีๆ มาใช้แต่ในระยะหนึ่งก็ต้องพบกับความผิดหวัง นั่นคือโดนล้างพอร์ต สูญเสียทั้งเงินทุน ขาดโอกาสที่จะทำกำไรใน FOREX วันนี้คุณมีทางเลือกที่ดีกว่าแล้ว

เรามีบริการ EA ที่สามารถทำกำไรให้กับนักเทรด FOREX ได้เป็นอย่างดีที่สุด ด้วยผลงานจากการเทรดด้วยบัญชีเงินจริง



"เรามีวิธีที่จะช่วยเพิ่มเงินในบัญชีเป็น 2 เท่าในระยะเวลาไม่เกิน 2 เดือน"

สรุปผลเทรดด้วย EA ของเรา

Greenpips Turbo

http://fxopenthai.mt4stats.com

http://destianur78.mt4stats.com/

http://www.mt4i.com/users/greenpip



GodBless Twin EA

http://newinvestor2.mt4live.com/



Magic Twin EA

http://alhasil2.mt4live.com/



NewCandleST EA

http://www.myfxbook.com/statements/15250/statement.html



บริการ EA ที่มีบริการมี 4 ชนิด


1. Greenpips Turbo เป็น EA ที่ทำงานแบบ Martingale เหมาะกับการเทรดด้วยบัญชี Micro account ที่มียอดเงินขั้นต่ำในบัญชี ไม่ควรน้อยกว่า 200$ สามารถเทรดได้กับเงินทุกคู่ ใช้ TF 15 Min ดูผลงานการเทรดได้ที่นี่ ราคาสำหรับลูกค้าทั่วไป 9,000 บาท สามารถรันได้เพียง 1 บัญชี แต่หากลูกค้าเปิดบัญชีโบรกเกอร์ผ่านเวบไซด์ของเรา จะได้รับราคาพิเศษเหลือเพียง 7,200 บาท และยังสามารถรัน EA ได้ถึง 2 บัญชี (2 บัญชีต้องเป็นชื่อเดียวกัน) ดูผลงานด้านล่าง








2. GodBless Twin EA เป็น EA ที่ทำงานแบบ Martingale และ Hedging มารวมกัน เป็นการพัฒนารูปแบบใหม่ล่าสุดในการทำกำไรใน FOREX โดยนำเอาจุดเด่น Greenpips Turbo มาพัฒนา สามารถทำงานได้อย่างดีกับ โบรกเกอร์ที่แนะนำคือ FXOPEN,INSTAFOREX,MASTERFOREX,IKOFX,LITEFOREX ดูผลงานของ GodBless Twin EA ได้ที่นี่ EA ตัวนี้ต้องใช้กับโบรกเกอร์ที่อนุญาติให้ทำ Hedging เท่านั้น เงินทุนขั้นต่ำที่แนะนำ ไม่ควรน้อยกว่า 200$ สามารถเทรดได้กับทุกคู่เงิน ใช้ TF 15 MIN ราคาของ GodBless Twin EA ราคาช่วงแนะนำสำหรับลูกค้าทั่วไป 1,3000 บาท สามารถรันได้ 1 บัญชี สำหรับลูกค้าที่เปิดบัญชีผ่านทางเวบ จะได้ราคาพิเศษ 10,400 บาท lามารถรันบัญชี ได้ 2 บัญชี (ทุกบัญชีชื่อจะต้องตรงกัน) ดูผลงานของ GodBless Twin EA ได้ทางด้านล่างนี้







EA ทุกตัวนี้สามารถทำงานได้อย่างดีกับบัญชีแบบ Micro Account โดยจะต้องมีเงินทุนไม่น้อยกว่า 200$ ถ้าเงินทุนเท่านี้แนะนำให้สามารถเล่นได้ 2 คู่ ใช้ TF 15 MIN แต่ถ้ามีเงินทุนมากกว่า 500 $ สามารถเทรดได้มากกว่า 2 คู่ EA ที่ทางลูกค้าซื้อจะต้องมีการลงทะเบียน ลูกค้าจะต้องแจ้ง หมายเลขบัญชี FOREX และ Investor Password เพื่อลงทะเบียน ลูกค้าไม่สามารถนำ EA ตัวที่ซื้อไปรันกับโบรกเกอร์ที่ไม่ได้ลงทะเบียน เพราะจะมีผลทำให้การทำงานของ EA ทำงานผิดพลาด และเกิดการ Error



3. Magic Twin EA เป็น EA ที่ทำงานแบบ Martingale และ Hedging มารวมกัน เป็นการพัฒนารูปแบบใหม่ล่าสุดในการทำกำไรใน FOREX โดยนำเอาจุดเด่น Greenpips Turbo มาพัฒนา สามารถทำงานได้อย่างดีกับ โบรกเกอร์ที่แนะนำคือFXOPEN,INSTAFOREX,MASTERFOREX,IKOFX,LITEFOREX ดูผลงานของ Magic Twin EA ได้ที่นี่ EA ตัวนี้ต้องใช้กับโบรกเกอร์ที่อนุญาติให้ทำ Hedging เท่านั้น เงินทุนขั้นต่ำที่แนะนำคือไม่ควรต่ำกว่า 800$ สามารถเทรดได้กับทุกคู่เงิน ใช้ TF 30 MIN ราคาของ Magic Twin EA ราคาสำหรับลูกค้าทั่วไป 15,000 บาท สามารถรันได้ 1 บัญชี สำหรับลูกค้าที่เปิดบัญชีผ่านทางเวบ จะได้ราคาพิเศษ 12,000 บาท lามารถรันบัญชี ได้ 2 บัญชี (ทุกบัญชีชื่อจะต้องตรงกัน) ดูผลงานของ Magic Twin EA ได้ทางด้านล่างนี้









4. NewCandleST EA เป็น EA ที่เหมาะกับการเทรดสำหรับบัญชีแบบ Standard Account เท่านั้นครับ ถูกออกแบบมาให้เทรดกับเงินเพียงคู่เดียว คือ EURUSD และจะต้องมีเงินในบัญชี 5000$ เป็นอย่างน้อยครับ สามารถดูผลการเทรดและประสิทธิภาพได้ที่นี่ครับ ส่วนราคาหากลูกค้าสนใจกรุณาอีเมลล์สอบถามได้ที่ admin@you-can-trade.com



ดูผลการทำงานและวิเคราะห์การทำงานของ NewCandleST EA



ความหมายของคำว่า Hedging

หลายๆ คนคงเคยได้ยินอะไรมากมายบ้าง เกี่ยวกับ Hedge Fund โดยเฉพาะ Quantum Fund ของ Soros ที่เข้ามาทุบเงินบาทเราตอนปี40 แต่เชื่อว่าน้อยคนนัก ที่จะเข้าใจว่า Hedge Fund คืออะไร

Hedge Fund ชื่อมันแปลว่า กองทุนป้องกันความเสี่ยง แต่ดูโดยรวมแล้วพฤติกรรมมันตรงข้ามกับชื่ออย่างสิ้นเชิง กองทุนพวกนี้จะเป็นกองทุนที่บริหารเงินให้กับนักลงทุนต่างๆ ที่มีเงินเป็น Long Term Capital โดยจะเป็นการลงทุนเก็งกำไรกับความเสี่ยงทุกชนิดที่มีในโลกนี้ เช่น อัตตราแลกเปลี่ยน น้ำมัน โลหะมีค่า หุ้น พันธบัตร สินค้าเกษตร Futures ของดอกเบี้ย และอะไรอื่นๆ เท่าที่นึกได้อีกมากมาย พูดง่ายๆ ว่า อะไรก็ตามที่ราคาเคลื่อนที่อย่างรวดเร็วและรุนแรง (Dance) กองทุนพวกนี้จะเข้าไปเทรดเพื่อเก็งกำไรลูกเดียวโดยไม่สนปัจจัยอื่น กองทุนพวกนี้เป็นกองทุนที่มีความเสี่ยงสูงสุดๆ จนถึงต่ำสุดๆ เช่นกัน แล้วแต่ว่าผู้จัดการกองทุนมีฝีมือในการบริหารแค่ไหน ถ้าผู้จัดการกองทุนมีความสามารถมากพอ กองทุนพวกนี้ก็จะทำกำไรได้มหาศาล เรียกได้ว่า ถ้าคุณลงทุนสักล้านในตอนนี้ ยี่สิบปีข้างหน้าคุณอาจมีเงินเพิ่มเป็นพันล้านก็ว่าได้

โดยทั่วไปลักษณะการซื้อขายของกองทุนพวกนี้ จะซื้อขาย ทั้งขา Long และ Short พูดเป็นภาษาง่ายๆ ว่า พวกนี้จะซื้อก่อนแล้วขายทีหลังนั่นเอง และยืมมาขายก่อนแล้วค่อยซื้อใช้ให้ เหมือนกันยักไปยักมา กองทุนพวกนี้บางทีทำเศรษฐกิจล่มจมมานักต่อนัก เนื่องจากยักหลายมือ จนไม่รู้แหล่งเริ่มต้น หรือแหล่งเริ่มต้นหาย หรือหาของที่จะขายจริงๆ ไม่เจอ โดยการลงทุนของกองทุนพวกนี้ จะมีการใช้ Leverage หรือการกู้มาลงทุน เพื่อขยายผลตอบแทน กองทุนพวกนี้ก็กู้กันแบบบ้าคลั่งมากๆ เช่น ซื้อหรือขายเงิน100 บาท ใช้เงินกองทุนแค่ประมาณ 2 บาท สรุปว่าขอกู้แค่ 98 บาท ถ้ามูลค่าของเงินที่ซื้อลดลงมา 1 บาท เท่ากับกองทุนขาดทุนทันที 50% การทำแบบนี้ทำให้อัตตราขยายของผลกำไรขาดทุนมีสูงมากๆ ถ้าคนบริหารกองทุนมีมือบริหารไม่เก่ง กองทุนอาจจะล้มละลายได้ในพริบตา

นี่แหละคือคำนิยามแบบตรงๆ ของ Hedging

ถ้าอธิบายแบบภาษา FOREX แบบให้เข้าใจง่ายๆ คือ

Hedging คือการป้องกันความเสี่ยง ที่อาจจะเกิดขึ้นจากภาวะความผันผวนของราคาสินค้า หรือเงินตราต่างประเทศในตลาด สามารถทำได้โดยการส่งคำสั่งซื้อหรือขายในทางตรงกันข้ามจากคำสั่งที่ซื้อขาย ไว้ก่อนหน้านี้หรือจะเป็นการซื้อและขายในเวลาเดียวกันก็ได้ เช่น เมื่อเราซื้อ Buy ไว้เพื่อรอให้ราคาขึ้นแต่เกิดความไม่แน่นอนเกิดขึ้นราคากลับตกลงมาต่ำกว่า ราคาที่เราซื้อbuyไว้ เราสามารถทำ Hedging โดยการเปิดขาย Sell ในทางตรงกันข้ามเพื่อจำกัดการขาดทุนไว้ไม่ให้มากไปกว่านี้

Martingale คืออะไร?

เพื่อนๆ ลองมาทำความเข้าใจดูจากคำอธิบายนี้ครับ



วิธีเดิมใช้เล่นพนันมืออาชีพอาจมีประโยชน์สำหรับผู้ค้าที่ใช้งานเป็นวิธีการ จัดการเงินทุน วิธี Martingale, by definition, Webster 's dictionary เป็นสองเท่าขนาดของเดิมพันหลังจากที่สูญเสียระบบจะตั้งชื่อตามนักพนันโชคดี ศตวรรษที่ 19 ซึ่งเป็นปกติที่คาสิโนฝรั่งเศส Riviera ในรูปแบบย่อความคิดนี้สามารถเปลี่ยนเป็นขบวนอ่อนซึ่งต้องเพิ่มขนาดเล็ก เดิมพันหลังจากสูญเสียรายการรวมทั้งการลดขนาดหรือไม่มีการเปลี่ยนแปลงหลัง จากชนะ

การประยุกต์ใช้ความก้าวหน้าแสดงว่าขนาดของรายการและระดับของกำไรจะถาวร เป็นที่ยอมรับว่าสอดคล้องกับความต้องการนี้อาจจะไม่สมจริง แต่โดยเฉลี่ยคาดว่าจะได้รับค่า อื่นสมมติฐานที่สำคัญคือการทำธุรกรรมแต่ละอย่างสมบูรณ์อิสระจากผู้อื่น

สิ่งที่สามารถวิธีการใช้งานของ martingale? อ้างตัวอย่างเช่นเราทราบว่าชุดของธุรกรรมใน Martingale จะประสบความสำเร็จหากได้รับรางวัลในที่สุดโดยหน่วยแยกการค้า -- สัญญาหนึ่งหรือหนึ่งหุ้นมากมาตรฐาน สมมติว่าผลของแต่ละรายการคือ 50-50, ชนะหรือสูญเสียแสดงโดยเราที่มีชุดของรายการความน่าจะเป็น martingale ของผลสำเร็จของการทำธุรกรรมอาจเพิ่มจาก 50% เป็น 87% สำหรับค่าใช้จ่ายต่ำสุดในอัตราสี่เท่าของการรวมธุรกิจการค้าเสีย 6 เฉลี่ย ฝังเป็นห้าเท่าจะช่วยเพิ่มผลกำไรสำหรับชุดของธุรกรรมบางถึง 90%



เป็นเสมอไปได้ที่จะเพิ่มโอกาสในการชนะชุดโดยเพิ่มเพื่อสำรองการลงทุน แม้ว่าขนาดสุดท้ายของทุนไม่ จำกัด และอาจนำไปสู่ความสำเร็จบางขนาดเพิ่มขึ้นการสูญเสียที่อาจเกิดขึ้นกับจำนวน เงินลงทุนที่

ขบวน Martingale ชุดจำนวนสัญญาซื้อขายในการทำธุรกรรมการซื้อขายที่ นำเสนอความก้าวหน้าที่นี่แก้ไขไม่ได้ martingeylovoy หมดจดระบบการเดิมพันเป็นสองเท่า ดังนั้นเพื่อที่จะอยู่ในชนะที่จำเป็นมากกว่าหนึ่งธุรกิจทำกำไรสำหรับจำนวน ไม่ได้ประโยชน์แต่เนื่องจากกฎของความก้าวหน้าเพื่อออกมีกำไรได้ไม่จำเป็น ต้องชนะได้บ่อยเท่าที่พวกเขาไม่เล่น เราใช้ชุด martingale (มีหลายชุดนั้น) เสมอเริ่มต้นด้วยการเป็นหนึ่งหน่วย จำนวนหน่วยการซื้อขายบนวิธีการแก้ไขของ martingale, t. F. จำนวนหน่วยความเสี่ยงจากการสูญเสีย, เสมอจำนวนหน่วยที่รายการแรกและสุดท้ายนับ"การพัฒนาความก้าวหน้า"ซึ่งเป็น หน่วยที่มีความเสี่ยงจากการสูญเสีย เมื่อรายการผู้ชนะเป็นครั้งแรกและค่าสุดท้ายของแถว"การพัฒนาความก้าวหน้า "คือไม่รวมจากตารางก่อนที่คุณจะคำนวณจำนวนหน่วยของหุ้นที่มีความเสี่ยงใน การทำธุรกรรมต่อไปเมื่อความเสี่ยงของการสูญเสียในจำนวนหน่วยที่เพิ่มให้กับ ปลายแถว"การพัฒนาความก้าวหน้า"ก่อนที่จะแสดงจำนวนของหน่วยสำหรับรายการถัดไป หากคุณชนะคุณได้ -- ยอดบวกในหน่วยแล้วชุดปลาย ตัวอย่างง่ายๆที่แสดงอัตราการทำธุรกรรมที่สามารถอธิบายความคิดดังกล่าว



ซื้อขายในวิธีการ martingale



วิธีนี้จะช่วยลดความเสี่ยงในกรณีที่ระบบการค้าสร้างอัตราส่วนกำไรเฉลี่ยที่ สูญเสียเฉลี่ยที่มากกว่าหรือเท่ากับอัตราส่วนของการสูญเสียทำข้อตกลงเพื่อ win - win dealsตัวอย่างเช่นถ้ามีรายได้สุทธิเฉลี่ย $ 300 ต่อรองและขาดทุนสุทธิเฉลี่ย -- $ 100 ในขณะที่ (สุดท้าย) อัตราส่วนของการค้าไม่ได้ประโยชน์ในการชนะจะต้องไม่ใหญ่กว่า 3-1 หลังจากอ่านเกี่ยวกับวิธีการปรับปรุงวิธีการเดิมของการจัดการเงินนี้ไม่ เพียงแค่ปรับเปลี่ยนวิธีการของการค้าและการสำรวจความคิดอย่างรอบคอบเพื่อให้ เข้าใจความเสี่ยงและการ"" ระวัง : คุณสามารถลดความเสี่ยงของคุณ แต่จะไม่ยกเลิกทั้งหมด กระบวนการมักจะช้าและเจ็บปวดจึงไม่มีตำแหน่งเปิดเมื่อชุดยาวของการสูญเสียจะ"ทิ้ง"คุณ ออกจากการค้า Trade เฉพาะกับเงินที่คุณสามารถที่จะสูญเสียเนื่องจากการสูญเสียเป็นส่วนหนึ่งของ การซื้อขาย ถ้าใช้วิธีนี้คุณจะพบกับตำแหน่งชนะ (เช่นการชนะโดยเฉลี่ยจะมากกว่าการค้าเสีย) แล้วไม่เห็นออกชุดจนกว่าจะสิ้นสุด เป็นที่ต้องการและเป็นประโยชน์ต่อล่วงหน้าเพื่อ จำกัด ระเบียนร่ำรวยเพราะเพียงจุดเริ่มต้นของชุดใหม่ของระดับความเสี่ยงที่ต่ำสุดที่จุดเริ่มต้นของบทความนี้ก็กล่าวว่าเป็นอิสระของราคาหรือ deals ความสำเร็จเป็นสิ่งจำเป็น ซึ่งหมายความว่าไม่มี"เฉลี่ย"เพื่อลดหรือเพิ่มในตำแหน่งการค้าเดียวกันคือ ขาดทุนเพิ่มขึ้นเพื่อให้บรรลุความได้เปรียบเทียบเฉพาะที่จุดเริ่มต้นของชุดใหม่ของระดับความเสี่ยงที่ต่ำสุด นักลงทุน ควรจะบรรลุถึงการค้าในตลาดอิสระหลาย กำไรสุทธิ แต่เฉลี่ยจากตลาดคาดตลาดจะต้องเคร่งครัดเทียบเท่าหากระบบของคุณมีการซื้อขาย ในพันธบัตรตราสารหนี้ Treasury หลังจากการสูญเสียและคณะกรรมการนำมาซึ่งกำไรสุทธิเฉลี่ยของ $ 1000 ต่อรายการและระบบการค้าของเม็ด -- only $ 250 ในขณะที่ทำรายการเมล็ดข้าวได้ร่วมกับการทำธุรกรรมตราสารหนี้ Treasury เท่านั้นหากหน่วยเป็นความเสี่ยงสำหรับ สัญญาข้าวเป็นสัญญาสี่เมล็ดหนึ่งสัญญา T - พันธบัตร ยังไม่พร้อมกันไม่สนใจผลกระทบของความผันผวนของเงินดอลลาร์ในสินค้าเกษตรและ อุตสาหกรรมเนื่องจากกระโดดลงในทันทีหรือดอลลาร์จะช่วยลดผลกระทบที่สร้างโดย อิสระของตลาดสินค้าที่แตกต่างกันวิธีเดียวที่จะชดเชยตลาดไม่ได้ตามละเอียด "ผสม"ตลาดสำหรับสินค้าต่างประเทศในผลงานของคุณและการรักษาสมดุลของตำแหน่ง ยาวและสั้นทำให้การซื้อขายเงินกับสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐฯ



สอบถามข้อมูลเกี่ยวกับ EA

ติดต่อทางเราได้ที่ admin@you-can-trade.com

หรือคุยทาง Skype ได้ที่ top.earner

ทาง MSN : thanes.so@gmail.com

Signal สำหรับเทรด FOREX สดๆ ทุกวัน

Signal Forex
Important:

สัญญาณการเทรด FOREX

Trading Gadgets

New York, NY
DST
GMT -5
Mon 12:54 pm
GMT Time
GMT
Mon 4:54 pm
London, Eng
DST
GMT
Mon 5:54 pm
Dubai
GMT+4
Mon 8:54 pm
Singapore
GMT+8
Tue 12:54 am
Tokyo
GMT+9
Tue 1:54 am
Sydney
GMT+10
Tue 2:54 am
FX Market Hours

Our Free Forex Signals

Our Free Signals - Status: On Hold...

แสดงอัตราแลกเปลี่ยนค่าเงิน และเวลาของตลาด FOREX

Live currency converter powered by Live Forex - Exchange Rates
Quotes powered by Live Forex - Exchange Rates

TV รายงานด้านการเทรด FOREX

วันอาทิตย์ที่ 16 พฤษภาคม พ.ศ. 2553

เทคนิคการทำกำไรกับ Forex

Moving Average Convergence Divergence (MACD)

เป็นเครื่องมือวัดความแรงของตลาด ซึ่งได้คำนวณค่าจากเส้นการเคลื่อนที่ของราคา 2เส้นMACD ประกอบด้วย 3 ส่วนหลักๆ คือ เส้น Moving Average  , Signal Line , และ Histogram  ดังรูปด้านล่าง



























จากรูปด้านบน  EUR/USD 4 Hours กราฟแบบแท่งเทียน(Candlestick)
 เส้นสีแดงเป็น Signal Line 
 เส้นสีน้ำเงินเป็นเส้น Moving Average
 ส่วนสีเงินเป็น Histogram ฺBar
 MACD จะ แบ่งออกเป็น 2 ฝั่ง คือ ด้านบนและด้านล่าง โดยมีเส้น Zero Line กลั้นอยู่ โดยด้านบนเราจะเรียกว่า แดนบวก( Bullish zone) และด้านล่างจะเรียกว่า แดนลบ (Bearish Zone)
 พิจาณารปด้านบน
 จากหมายเลข 1 เราจะเห็นว่า เส้น Moving Average สีน้ำเงิน ตัดกับเส้น Signal Line สีแดง เมื่อ ตัดผ่าน เราก็เข้าซื้อ (Buy/Long) กันได้เลย เมื่อเข้าแล้ว ถ้าราคาเป็นไปตามที่เราคาดการณ์ไว้ตั้งแต่ต้นก็ปล่อยไปเรื่อยๆ หรืออาจจตั้งเป้าหมายเอาไว้ ขึ้นอยู่กับความพอใจของทุกท่านว่าจะเอาเท่าไร  เราจะปิดก็ต่อเมื่อเส้นสีน้ำเงิน ตัดกับ เ้ส้นสีแดงอีกครั้ง เราก็ทำการปิดออเดอร์ดังรูปหมายเลข 2 จากนั้น ก็รอหาจังหวะในการเข้าทำกำไรใหม่อีกครั้ง จะเห็นว่า หมายเลข2 เป็นสัญญาณขาย ( Sell/ Short) เราก็เซลเมื่อเส้นสีน้ำเงินตัดกับสีแดง และรอปิดเมื่อเส้นสีน้ำเงินตัดสีแดงอีกครั้ง เราจะเห็นว่าช่วงที่ 2- 3 ไม่น่าเปิดออเดอร์
 ต่อไป เรามาทำการพิจารณา Histogram ในช่วงหมายเลข 2 ถึง หมายเลข 3 จะพบว่า Histogram(สีเงิน) ทำยอดคลื่นต่ำลงเรื่อยๆ นั่นเป็นสัญญาณบ่งบอกว่า ราคาในขาขึ้นเริ่มหมดแรงแล้ว ในภาษาทางเทคนิค เรียกกันว่า Divergence ราคายังเป็นขาขึ้นอยู่ แต่ Macd-Histogram เริ่มปรับตัวลง เราก็เริ่มมองหาสัญญาณขาย( Sell/Short) กันได้เลย ดังหมายเลข 3  สีน้ำเงินตัดกับสีแดง สัญญาณConfirm ว่าให้ Sell คือหมายเลข 7  ตำแหน่งนี้เป็นการบ่งบอกที่ชัดเจนมากเพราะเส้นสีน้ำเงินและ Histogram ตัดกับ Zero Line ซึ่งหมายความว่าตลาดได้เข้าสู่สภาวะกระทิง (ฺำBearish Market) ตลาดขาลง เมื่อเรา Sell แล้วก็ปล่อยให้ราคาวิ่งไปเรื่อย  เมื่อเส้นสีน้ำเงินตัดเส้นสีแดงอีกครั้งเราก็ทำการปิดออเดอร์ และรอจังหวะ เพื่อ ที่จะซื้อกลับอีกรอบ
ต่อไปเรามาพิจารณาหมายเลข  4 และหมายเลข 5  จะดังเกตว่า Histogram ทำการปรับตัวขึ้นเรื่อยๆ ในขณที่ราคาด้านบนก็ยังมีการปรับตัวลง นี่คือ Divergence bullish เราจะเห็นว่า สันคลื่นของหมายเลข 5 สูงกว่า หมายเลข 4 นั่นหมายความว่า ราคาจะเกิดการกลับตัวในไม่ช้า  เราจะรู้ได้ไงว่าราคาปรับตัวขึ้นอีกครั้ง เราก็ดูการตัดกันของเส้นสีน้ำเงินตัดกับสีแดงเหมือนเดิม ถ้าสีน้ำเงินตัดสีแดงขึ้น ก็ทำการ ซื้อ Buy กันได้เลย เมื่อเราได้ทำการซื้อ ฺBuy ในหมายเลข 5 สัญญาณ คอนเฟริม ก็คือ เส้นสีน้ำเงินและ Histogram ได้ตัดเส้น Zero  Line  ขึ้นไป(หมายเลข 6 )  หมายเลข 6 จะเป็นตำแหน่งซื้อ Buy ที่ปลอดภัย เพราะตลาดได้เข้าสู่สภาวะขาขึ้น ( Bullish Market) นักลงทุนบางคนจะรอเข้า แค่ตรงนี้เพราะพวกเขาถือว่า เปิดออเดอร์ในราคาที่ปลอดภัยดีกว่าเิปิดออเดอร์ในราคาที่สวย
เราจะเห็นว่า  MACD จะวิ่งเป็นรอบ ขึ้น  ลง  ขึ้น MACD ให้สัญญาณช้า แต่ว่ามีความแม่นตรงค่อนข้างสูง มันจึงถูกยกย่องให้เป็น อินดิเคเตอร์เทพ แห่งฟอเร็กซ์
การดู MACD นั้น ไม่ยาก แค่ดูการตัดกันไปตัดกันมา ของเส้นสีน้ำเงินและสีแดง และ ดูว่าเส้นสีน้ำเงินและ Histogram ตัดผ่าน Zero Line เพียงแค่นี้เราก็สามารถทำกำไรจาก ตลาด ฟอเร็กได้แน่นอน

รูปตัวอย่างการเทรดโดยใช้ MACD อย่างเดียว























Divergence Bulish คือ ราคาทำราคาต่ำสุดใหม่ เมื่อเทียบกับยอดเก่า แต่ Indicator ทำยอดสูงขึ้นเรื่อยๆ
Divergence Bearish คือ ราคาทำราคาสูงสุดใหม่ เมื่อเทียบกับยอดเดิม แต่ Indicator ทำ ยอดต่ำลงมาเรื่อยๆ
Side way คือ ราคาวิ่งไปวิ่งมา ในกรอบราคาแคบๆ ไม่มีเทรนที่ชัดเจน ช่วงนี้ ไม่น่าเทรด เพราะอาจจะทำให้เราปวดหัวได้


Moving Average คือเส้นเฉลี่ยการเคลื่อนที่ซึ่งคำนวณมาจากราคาในแต่ละช่วงแล้วนำมาหาค่า เฉลี่ย
การใช้ Moving Average ในการทำกำไร เราจะใช้กับตลาดที่สามารถบอกเทรนได้ ไม่สามารถใช้กับตลาดที่ผันผวนมากๆแกว่งไปแกว่งมา ( Side way)
Moving Average ให้สัญญาณที่ช้า แต่ถ้าเราดูเป็นก็สามารถใช้มันในการเกร็งกำไรได้อย่างง่ายดาย
ประโยชน์ Moving Average
1. ใช้เป็นเส้นแนวรับแนวต้านได้
2. ใช้เพื่อดูแนวโน้ม
3. ใช้ Confirm สัญญาณการเข้าออก
Moving Average ที่่ใช้กันทั่วไป ใช้ แบบ Simple และ Exponential  เรียกสั้นๆ ว่า SMA และ EMA 
ผมจะยกตัวอย่าง Moving Average ที่ผมใช้ในการเกร็งกำไรนะครับ
Moving Averageที่ผมใช้เป็น แบบ Exponential  มีค่า Period  5 , 21 ,  55 , 110 และ 200 วัน   ทำไมผมจึงเลือกใช้ Exponential ก็เพราะว่า EMA จะให้ค่าที่แม่นตรงกว่า SMA 
เรามาดูวิธีการใช้กันเลย
1 . ใช้เพื่อดูแนวรับแนวต้าน(Support And Resistance)
การดูแนวรับแนวต้านเราจะดูที่ช่วงเวลา( Time Frame ) ใหญ่ๆ เพราะที่ช่วง TF ใหญ่ๆจะให้ค่าที่ค่อนข้างแม่นพอสมควร
เมื่อราคาวิ่งผ่าน EMA ไปแล้ว โดยส่วนใหญ่ มันจะวิ่งกลับมาหาเส้นที่มันทะลุอีกครั้งเพื่อทดสอบแนวรับแนวต้าน
ดูรูปประกอบด้านล่าง

























จากรูปด้านบน เป็นกราฟ  Daily ของ USD/JPY

สีน้ำเงิน เป็น เส้น EMA  5
สีแดง    เป็น เส้น EMA 21
สีดำ      เป็น เส้น EMA 55
สีส้ม      เป็น เส้น EMA 110
สีน้ำตาลเป็น เส้น EMA 200

จากรูปด้านบนเราจะเห็นว่า เมื่อราคาได้ทะลุเส้น EMA แล้วมักจะกลับมาทดสอบอีกครั้ง ลองดูง่ายๆนะครับ เราจะเห็นกราฟ ยูเจ เป็นช่วงขาลง
และราคาได้ปรับตัวขึ้นไป เส้นแนวต้านเส้นแรกก็คือ EMA 5 ถ้าทะลุ เส้นนี้ก็ไป EMA 21 ถ้าทะลุ 21 ก็ไปหาเส้น 55 ถ้าทะลุก็ไปต่อเรื่อยๆ
เส้น EMA 200 จะเป็นแนวรับแนวต้านที่แข็งแกร่งมาก ถ้าทะลุไปก็คือเปลี่ยนแนวโน้มทันที ห้ามสวนเทรน เราอาจจะใช้ เส้น EMA 200 เพื่อบอกเทรนก็ได้
เราสามารถประยุกต์ EMA นี้ ได้กับ ทุก Time Frame  เพื่อทำกำไรในตลาดฟอเร็ก

2. เราจะใช้ EMA เพื่อบอกแนวโน้ม ดังรูปด้านล่าง


























EMA สามารถบอกแนวโน้มเราได้ ว่าขณะนี้เป็น เทรนขึ้นหรือลง 
แนวโน้มขั้น ( Up Trend) จะเป็นแนวโน้มขึ้นก็ต่อเมื่อ ราคาได้ทะลุ  EMA ทุกเส้นขึ้นไปทั้งหมด และราคาปิดสามารถอยู่เหนือ EMA
(การดูแนวโน้ม ให้ดูที่กราฟ สี่ชั่วโมงขึ้นไป เพราะกราฟใหญ่ๆจะไม่หลอกเรา )
แนวโน้มลง (Down Trend ) จะเป็นแนวโน้มลงก็ต่อเมื่อ ราคาได้ทะลุ EMA ทุกเส้นลงมาทั้งหมด และราคาปิดอยู่ใต้เส้น EMA

3.ใช้ Confirm สัญญาณการเข้า-ออก เราสามารถใช้ EMA ในการซื้อขาย ได้ หลักการดูก็คือ ดูการตัดกันของ EMA   โดยเริ่มจาก EMA ที่มีค่าน้อยตัด EMA ค่ามาก
เช่น EMA 5 ตัดกับ EMA 20  ตัดขึ้นไป เราก็เข้าซื้อ BUY/LONG หรือ EMA 5 ตัดกับ EMA 20  ตัดลงมาก เราก็เข้าขาย Sell/Short  ดูตัวอย่างจากรูปด้านล่าง






















จากรูป



ดูที่ขอบด้านซ้าย EMA 5 เริ่มตัด เส้นEMA 21 นั้นเป็นสัญญาณบอกแล้วว่า แนวโน้มได้เริ่มเปลี่ยนไปแล้ว และ เส้น EMA 5 ก็ทะลุเส้น EMA 21 , 55 ,100 ,200
เราก็คาดการณ์ได้เลย ว่าเป็นแนวโน้มลงแน่นอน สังเกตุที่แท่งเทียน แท่งเทียนได้ทะลุ EMA 5 ลงมาแล้ว และมันก็กลับไปเทสที่ตัวมันเองอีกครั้งแต่ไม่ผ่าน แล้ว
ราคาก็ไต่ระดับลงมาอีกแล้วก็กลับไปทดสอบเส้น EMA 5 และ EMA 21 กราฟแบบนี้สวยมาก เป็นการลงต่อเนื่อง ไม่สามารถทะลุ EMA ที่มีค่าน้อยๆไปได้ นั่นหมายความว่า
ราคายังจะลงต่อไปเรื่อยๆ จนกว่าเส้น EMA 5 จะทะลุเส้น EMA 21 ขึ้นไป เราจึงมองว่ามันเป็นขาขึ้น อย่าสวนเทรนกันเด็ดขาด

เมื่อเรารู้แล้วว่าแนวโน้มใหญ่ไปทางไหน ขึ้นหรือลง เราก็มามองหาราคาที่เราจะเปิดออเดอร์ เราควรหาราคาเข้าที่ Time Frame เล็กๆ
เมื่อแนวโน้มของ Time Frame เล็กๆ ตรงกับ แนวโน้มของ Time Frame ใหญ่ เราจึงเปิดออเดอร์ ... ขอให้ทุกท่านโชคดี ครับ

 การใช้ Stochastic
  Stochastic เป็นเครื่องมือหนึ่งที่ใช้ในการเกร็งกำไรในตลาดฟอเร็กซ์ สโตเป็นเครื่องมือวัดการแกว่งของตลาดซึ่งเหมาะกับตลาดไซว์เวย์ (Side way) ไซเวย์หมายความว่ามีการแปลงแปลงของราคาไม่มากนัก สโตเป็นเครื่องมือที่ไวเท่ากับราคา สัญญาณของสโตจะเกิดขึ้นก็ต่อเมื่อมีการตัดกัน โดยส่วนมาก ผมจะใช้ สโต ในการดู
Overbought / Oversold และ การดู Diverge

สัญลักษณ์ ที่ผมใช้เพื่อให้เข้้าใจกันทุกคนนะครับ
OB=Overbought สัญญาณแรงซื้อเยอะเกินไปแล้ว
OS=Oversold   สัญญาณการขายเยอะเกินไปแล้ว
DVB=Divergence Bullish สัญญาณกลับตัวของขาขึ้น
DVBr=Divergence Bearish สัญญาณการกลับตัวของขาลง

มาดดูภาพด้านล่าง ประกอบเลยนะครับ 
 


 


จากภาพด้านบนจะเห็นว่า ผมได้กำหนดให้เส้นปะสีขาว ที่ระดับ 80 เป็น เขต OB และ เส้นประสีขาวด้านล่างที่ระดับ 20 เป็นเขต OS ซึ่งสโตในรูปผมได้ตั้งค่าไว้ที่
8 3 3 ซึ่งเป็นค่ามาตรฐานที่ใช้กันโดยทั่วไป มีเส้นสีขาวและสีแดง เป็นเส้นสัญญาณในการพิจาณา ซึ่งดูจากการตัดกันของเส้น

การดู stochastic

1.เมื่อเส้นสัญญาณทั้งสองเส้นได้วิ่่งเข้าสู่ เขต OB ระดับ 80 แล้ว เราก็เริ่มพิจาณากันได้เลยว่า การขึ้นมาของราคาเริ่มจะสิ้นสุดลงแล้ว ให้เตรียมปิดออเดอร์ เมื่อเริ่มมีสัญญาณการกลับตัวนั่นก็คือ เส้นสัญญาณท้งสองเส้นเริ่มตัดกันให้เราปิด ออเดอร์ ที่เรา  Buy มาทันที และเตรียมหาสัญญาณ Sell เมื่อเส้นสัญญาณทั้งสองเส้นได้ตัดกันเรียบร้อยแล้ว

2.เมื่อเส้นสัญาณทั้งสองเส้นได้วิ่งเข้าสู่เขต OS ระดับ 20 แล้ว มันเป็นสัญญาณบอกเราว่า การลงมาของราคาไดใกล้สิ้นสุดแล้ว ให้เราเตรียมปิดออเดอร์ที่เราได้ Sell
มา แล้วเตรียมหาโอกาสเมื่อเส้นสัญญาณทั้งสองเส้นได้กลับตัวแล้วมีการตัดกันเกิด ขึ้น แล้วเราก็เปิด order buy ทันที

3. การดู Divergence ไดเวอร์เจนดูได้สองแบบคือ ดูไดขาขึ้น และไดขาลง ไดขาขึ้นเรียกว่า Divergence Bullish ไดขาลงเรียกว่า Divergence Bearish
การดูไดขาขึ้น DVB จากรูปเห็นเส้นสีเหลืองกันมั้ยครับ นั่นแหระครับ คือ Divergence ไดเวอร์เจ้นเป็นการลากจุดสองจุดเทียบกัน โดยมีข้อกำหนดที่ว่า ยอดแรกและยอดที่สองต้องไม่เท่ากัน จึงจะเรียกว่าไดเวอร์เจน การดูไดขาขึ้นก็ลากสองยอดเทียบกัน โดยให้ ความชันมีค่าเป็นบวก ถ้าสัญญาณได้เกิดไดเวอร์เจนนั่นก็หมายความว่าราคาจะมีการกลับตัวในไม่ช้า เตรียมเปิดออเดอร์กันได้เลย การใช้ sto ดูไดเวอร์เจนจะไม่ค่อยชัดเจนเหมือนดูจาก CCI , RSI , และ MACD  เพราะ stochastic จะเน้นไปทางการดู
Overbought/ Oversold มากกว่า และดูจากการตัดกันของ เส้นสัญญาณทั้งสองเ้ส้นด้วย เพียงแค่นี้เราก็สามารถเกร็งกำไรจากตลาดฟอเร็กโดยใช้ stochastic กันได้แล้ว 


การใช้ Rsi ( Relative Strength Index) RSI เป็นเครื่องมือวัดการแกว่งของตลาดอีกเหมือนกัน ซึ่ง RSI จะให้สัญญาณที่ช้ากว่า อินดิเคเตอร์ตัวอื่นๆ แต่เป็นเครื่องมือที่ค่อนข้างที่จะแม่นยำเลยทีเดียว การใช้ RSI
โดยส่วนใหญ่ก็จะใช้ ดู Overbought /Oversold เหมือนกัน  และดู Divergence เช่นเดียวกัน การดูDivergence ด้วย RSI เป็นที่นิยมกันมาก เพราะมันจะให้ค่าที่แม่นตรง
มากๆ โอกาสที่จะพลาดมีน้อย เพราะว่า RSI จะวิ่งเป็นรอบที่ใหญ่มากตามค่าที่เราตั้ง ถ้าเราตั้งค่า 14  ราคาวิ่งลงหนึ่งรอบ rsi จะวิ่งแค่สองรอบ ซึ่งแตกต่างจาก sto ที่วิ่งเป็น สิบๆรอบ นี่คือเหตผลที่เทรดเดอร์ส่วนใหญ่ใช้ RSI เป็นเครื่องมือในการทำกำไร

RSI ที่ใช้กันส่วนใหญ่ คือ  9 และ 14 วัน เป็นค่าที่มาตรฐานที่สุด
สัญญาณการกลับตัว เมื่อ RSI เข้าสู่ระดับ 70 ให้เราเตรียมตัวออกจากออเดอร์ที่เราได้ เปิด Buy ไว้ แล้วก็หาจังหวะ Sell
สัญญาณการกลับตัวเมื่อ RSi เข้าสู่ระดับ 30 ให้เราเตรียมตัวออกจากออเดอร์ที่เราได้ เปิด Sell ไว้ แล้วก็หาจังหวะ Buy
การหาจังหวะเข้า  Sell ต้องรอให้ RSI หัดหัวลงก่อนนะครับ เปิดดูที่กราฟ TF ใหญ่ๆก่อนว่ามันหักลงหรือป่าว ถ้าหัก เราก็เปิด หา สัญญาณจาก TFเล็กๆ ถ้าหักลงตามกัน
เราก็จึงหาจังหวะ Sell ในขณะเดียวกัน จังหวะบายก็ทำเหมือนกัน

ภาพตัวอย่างของการใช้ RSI 


 


เส้นแนวโน้ม ( Trendline) เป็นเครืื่องมือที่ใช้ดูแนวโน้ม จุดกลับตัว และจุดเข้าจุดออก ในการเล่นฟอเร็กซ์ เทรนไลน์เป็นเครื่องมือที่มีความสำคัญมากสำหรับ Trader การใช้เทรนไลน์วัดแนวโน้ม สามารถลากได้ 2 รูปแบบ ได้แก่ การลากแนวโน้มขาขึ้น และลากแนวโน้มขาลง
แนวโน้มขาขึ้นคือการลากจากจุดต่ำสุดเก่ามา หาจุดต่ำสุดใหม่ โดยที่จุดต่ำสุดใหม่ต้องสูงกว่าจุดต่ำสุดเก่า และแนวรับของแนวโน้มขาขึ้นเราจะเรียกว่า Support Trendline
แนวโน้มขาลงคือ การลากจากจุดสูงสุดเก่ามาหาสุดสูงสุดใหม่ โดยที่จุดสูงสุดเก่าต้องต่ำกว่าจุดสูงใหม่ใหม่ และแนวต้านของแนวโน้มขาลงเราจะเรียกว่า Resistance Trendline
การลากเทรนไลน์เพื่อหาแนวรับแนวต้าน เราสามารถลากได้ทุกช่วงเวลา ( Time Frame ) ลากที่ Time Frame เล็กๆ ตั้งแต่ 5 นาทีจนถึง 1 ชั่วโมง เราจะเรียกว่าแนวรับแนวต้านรอง  Minor Support Trendline &  Minor Resistance Trendline และแนวรับแนวต้านหลัก คือการลาก ตั้งแต่ช่วงเวลา 4 H ไปจนถึง Month เราจะเรียกว่า Major Support Trendline & Major Resistance Trendline
ผมจะยกตัวอย่างการลากเทรนไลน์ขาขึ้นนะครับ เป็นกราฟของ GBP/USD โดยการลากที่ 5 นาทีก่อนนะครับ
GBP/USD 5 Min




จะเห็นว่าผมเริ่มลากเทรนไลน์ จาหมายเลข 1 โดยที่ลากผ่านหมายเลข 2 ขึ้นไป แล้วเราก็รอจนราคาลงมาทดสอบเส้นเทรนไลน์ของเราอีักครั้ง ถ้าราคาลงมาทดสอบแล้วไม่สามารถผ่านเส้้นเทรนไลน์ที่ลากไว้ได้ ก็ เราก็จะ Buy ขึ้นไป แต่ถ้าราคาสามารถทะลุผ่านเส้นเทรนไลน์ลงมาได้ เราก็รอดูสัญญาณการกลับไปทดสอบเส้นเทรนไลน์อีกครั้ง( Retest) ถ้าไม่สามารถเทสผ่านได้ เราก็เปิด order sell กันได้เลย
เมื่อเปิดออเดอร์ sell กันแล้ว หลังจากนั้นเราก็มาเปิดที่ ช่วงเวลา 15 นาที จากนั้นก็ทำการลากเทรนไลน์เหมือนเดิม เพื่อหาแนวรับ ( Minor Support Trendline ) ดูรูปประกอบกันเลยนะครับ
GBP/USD 15 Min



จากรูปด้านบน จะเห็นว่า เส้นสีแดงคือเส้นที่เราขีดไว้ตั้งแต่กราฟ 5 นาที แต่สีน้ำเงินเราได้ลากเทรนไลน์เพื่อหาแนวรับในกราฟ 15 นาที ซึี่งราคาได้ลงมาชนเส้นเทรนไลน์ แล้วเราก็ดูว่า ราคาจะสามารถทะลุผ่านเส้นเทรนไลน์ 15 นาทีของเราได้หรือไม่ ถ้าราคาสามารถผ่านได้เราก็ถือ Order sell ต่อ แต่ถ้าไม่สามารถผ่านได้ เราก็ปิดออเดอร์ Sell แล้วหาจังหวะเพื่อเปิดออเดอร์ Buyกันต่อไป จะเห็นว่าเมื่อราคาลงมาชนเส้นแนวมีการปรับตัวขึ้นไปทันที
การใช้เทรนไลน์เพื่อหาแนวต้าน ( Resistance Trendline) เมื่อราคาวิ่งลงมา แล้วมีการปรับตัวขึ้นไป ซึ่งเราก็ไม่รู้ว่า ราคาจะไปหยุดตรงไหน ราคาจะกลับตัวตรงไหน จุดไหนที่คิดว่ามันสามารถจะไปต่อ หรือว่าจะกลับตัว ซึ่งเทรนไลน์สามารถบอกจุดเหล่านี้ได้ การหาแนวต้านล่วงหน้า เราสามารถหาได้จากการลากจุดจุดสูงสุดเก่ามาหาจุดสูงสุดใหม่ ดังรูปด้านล่างเลยครับ




จากรูป Resistance Trendline สามารถเลื่อนไปตามราคาได้ แนวต้านจะอยู่ประมาณเส้นที่ผมได้ทำลูกศรไว้ มาดูรูปด้านล่างเลยครับ จะเห็นว่าราคาเมื่อขึ้นมาชน Resistance Trendline แล้ว มีการกลับตัวทันที ซึ่งจุดนี้จึงเป็นจุดบอกการกลับตัวของราคาได้ครับ เมื่อราคาไม่สามารถผ่านจุดนี้ หรือราคาของแท่งเทียนไม่สามารถปิดสงกว่าเส้นแนวโน้มเส้นนี้ เราก็หาจังหวะ Sell กันได้เลยครับ ถ้าราคาไม่ลงตามที่เราคาดการณ์ไว้ เราก็ Cut Loss เมื่อราคาทะลุเส้นนี้ขึ้นไป แต่ถ้าเป็นไปตามที่เราคาดการณ์ไว้ ก็ปล่อยราคาลงจนเราพอใจ หรือไม่ก็รอจนกว่าจะมีการดีดกลับอีกครั้ง เราจึงปิดออเดอร์ Sell ครับ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

หมายเหตุ: มีเพียงสมาชิกของบล็อกนี้เท่านั้นที่สามารถแสดงความคิดเห็น

Live Forex Trade

Forex Data

ZuluTrade - Autotrade the Forex Market like never before!
InstaForex